แชร์ประสบการณ์ผ่าตัดคลอดลูกที่รพ.รัฐ (ภาค 2 : การผ่าตัดคลอดลูกแบบบล็อคหลัง)

สวัสดีค่า วันนี้ Mommynuch มาแชร์ประสบการณ์ผ่าตัดคลอดลูกกันต่อนะคะ

เมื่อถึงวันคลอด เราก็พาร่างอันบอบบางไปรายงานตัวกับจนท. หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อยก่อนเตรียมตัวขึ้นเขียง เอ้ยย..เตรียมตัวคลอด เช่น พาน้องสาวไปตัดผม และบ๊ายบายน้องอุนค่ะ (สวนอุจจาระ)

แชร์ประสบการณ์ผ่าตัดคลอดที่รพ.รัฐ, บล็อคหลัง, คลอดลูก,ดมยาสลบ

ภาพโดย Sasin Tipchai จาก Pixabay

การผ่าตัดคลอดลูก แบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ

ผ่าตัดคลอดแบบดมยาสลบ และการผ่าตัดคลอดแบบบล็อคหลัง

การผ่าตัดคลอดแบบดมยาสลบ

คุณหมอจะดมยาสลบให้เรา แล้วเราก็จะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา หลับสนิทไปเลยค่ะ ตื่นมาอีกทีก็นอนสวย ๆ อยู่ห้องพักฟื้นและมีเบบี๋อุแว้ ๆ ๆ ๆ อยู่ข้าง ๆ

ข้อดีของวิธีนี้คือ

คุณแม่ไม่ต้องวิตกกังวล หรือกลัวขณะทำการผ่าตัดคลอด เพราะสลบไปแล้วค่ะ
ทำให้ง่ายต่อการควบคุมการผ่าตัดของคุณหมอค่ะ

ข้อเสียของวิธีนี้คือ

เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ววว… จะเจ็บแผลมากกกกกก มากชนิดที่ว่า ก.ล้านตัวก็ไม่เพียงพอต่อความเจ็บปวดที่ว่า เพราะการดมยาสลบจะเป็นการกดสมองไม่ให้รับรู้ แต่เมื่อหมดฤทธิ์ยาสลบ ระบบประสาทและไขสันหลังยังทำงานอยู่ ทีนี้ล่ะคุณขาาา...เจ็บปวดมากกกก // อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนก็คงจะแว้กก.. เธอเล่าซะน่ากลัวแล้วชั้นจะกล้าไหมเนี่ย อันนี้เล่าประสบการณ์การคลอดเพื่อนที่คลอดวิธีนี้ให้ฟังค่ะ แต่แม่ ๆ หลายท่านก็บอกไม่ได้เจ็บขนาดนั้นนนน Mommynuch เธอก็เว่อร์ไปปปป
คุณแม่ตื่นขึ้นมาอาจจะมีอาการมึนเวียน และอาเจียนได้เพราะฤทธิ์ของยาสลบ
ยาสลบอาจจะส่งผ่านไปยังลูกน้อยค่ะ

แน่นอนค่ะเมื่อ Mommynuch ได้ยินความเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงความเจ็บปวดขนาดนี้ เราก็ต้องเลือกอีกวิธีแทนค่ะ นั่นก็คือการผ่าตัดคลอดแบบบล็อคหลังค่ะ

ภาพโดย RitaE จาก Pixabay

การผ่าตัดคลอดแบบบล็อคหลัง ( วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมมากกว่าค่ะ )

คุณหมอจะให้เรานอนขดตัวเป็นกุ้งเพื่อฉีดยาชาเข้าที่ระหว่างข้อต่อของกระดูกสันหลัง ยิ่งขดตัวมากที่สุดก็ยิ่งดี จะทำให้ไม่เจ็บ Mommynuch ได้ยินแบบนี้รีบขดม้วนตัวแข่งกับกิ้งกือเลยค่ะ แล้วก็เจ็บนิดเดียวจริง ๆ ด้วย เพียงแค่ 1-2 นาทียาชาออกฤทธิ์ เราจะชาบริเวณช่วงล่างตั้งแต่เอวลงไปถึงปลายเท้า คุณหมอจะทดสอบว่ายาชาออกฤทธิ์ดีไหม โดยการเคาะขาว่าเรายังมีความรู้สึกอยู่หรือเปล่า ขั้นตอนนี้ถ้าใครยังรู้สึกให้รีบแจ้งนะคะ ไม่ต้องกลัวว่าคุณหมอจะดุค่ะ เล่าถึงตรงนี้แล้วก็นึกถึงบทความแชร์ประสบการณ์ผ่าคลอดลูกของคุณแม่ท่านหนึ่งที่ผ่าคลอดทั้ง ๆ ที่ยาชายังออกฤทธิ์ไม่ดี เหมือนกับการผ่าตัดสด โอ้ยยย.. อ่านแล้วเสียว สยองกันไปตาม ๆ กัน

ข้อดีของวิธีนี้คือ

เราจะได้ยินทุกอย่างเลยค่ะ มีสติสัมปชัญญะทุกอย่าง เพียงแค่ร่างกายช่วงล่างชา ขยับไม่ได้เท่านั้นเอง
หลังผ่าตัดเสร็จจะยังไม่เจ็บแผล เพราะยังมีฤทธิ์ยาชาเหลืออยู่
เราจะเห็นลูกน้อยทันทีหลังผ่าตัดคลอดเสร็จ พี่พยบ.จะเอาลูกน้อยมาให้ดูค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นมองไม่ชัดเลย เพราะตัวเองสายตาสั้นถึง 800 ไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์ด้วย (กฏของห้องผ่าตัดคือ คนไข้ห้ามใส่คอนแทคเลนส์และห้ามทาสีเล็บนะคะ สำคัญมากห้ามแหกกฏนะคะ ข้อห้ามต่างๆ เป็นประโยชน์ต่อคนไข้นะคะ เวลาเกิดเคสฉุกเฉิน คุณหมอจะต้องวินิจจัยจากดวงตาและสีเล็บด้วยค่ะ )

ข้อเสียของวิธีนี้คือ

คุณหมอจะควบคุมการผ่าตัดได้ยากกว่าวิธีดมยาสลบเพราะคนไข้ยังรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา
อาจจะมีอาการปวดหลังหรือเมื่อยหลังได้หลังจากผ่าตัดคลอดเสร็จสิ้นแล้ว

ภาพโดย Pexels จาก Pixabay

เมื่อเข้าสู่ห้องผ่าตัดคลอด เหมือนในหนังที่เคยดูเลย มีโคมไฟดวงใหญ่หลายดวงอยู่ในห้อง Mommynuchนอนบนเตียงมีผ้าสีขาวบาง ๆ กั้นเป็นผ้าม่านตรงบริเวณใต้อกค่ะ คุณหมอจะให้เรานอนกางแขนทั้งสองข้าง มีอุปกรณ์ตรวจวัดชีพจรและความดัน แปะติดเต็มไปหมดที่แขนทั้งสองข้าง และได้สวมท่อหายใจด้วยค่ะ

ขณะทำการผ่าตัดเราจะได้ยินและรับรู้ทุกอย่าง ตอนนั้นไม่รู้สึกกลัว กลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากกว่าว่าคุณหมอกำลังทำขั้นตอนอะไร คุณหมอผ่าตัดไป คุยกับทีมงานไปเรื่องเค้กวันเกิด จะเลือกแบบไหนดีนะ Mommynuch ฟังไปและคิดตาม พอออกจากห้องคลอด คุณสามีถามว่าอยากทานอะไร คำตอบที่ได้คือ อยากกินเค้ก 555555 แหมมมม..ก็บิวท์กันขนาดนั้น ฟังไป เคลิ้มตามไปค่ะ นี่ไงที่บอก..เราจะมีสติสัมปชัญญะตลอดเวลา

ตอนที่คุณหมอกำลังเอาลูกน้อยหอยสังข์ออกจากท้อง พี่พยาบาลกระซิบข้าง ๆ หูของ Mommynuch ว่า.. คุณแม่คะ กำลังจะเอาน้องออกนะคะ ไม่ต้องตกใจนะคะ จะรู้สึกหนัก ๆ โดนกดบริเวณปลายอกหน่อยนะคะ สิ้นคำพูดเท่านั้นล่ะค่ะ … อินี่ตกใจมากกก หายใจไม่ออกทันที ความรู้สึกเหมือนคนกำลังจะจมน้ำ ได้แต่พูดว่า หายใจไม่ออกๆ ๆ จะตายแล้วค่ะ พี่พยาบาลรีบบอกใจเย็น ๆ ค่ะ ผ่อนลมหายใจ ใจเย็น ๆ ๆ ๆ ๆ หายใจเข้า หายใจออก และบอกให้เราทำตาม นั่นล่ะค่ะ สติถึงได้กลับมา นึกย้อนไปก็ขำตัวเอง ไม่รู้ก็ไม่กลัว พอรู้ปุ๊บกลัวทันที พี่พยาบาลคงนึกในใจตรูไม่น่าบอกเล้ยยยย อันนี้ก็เป็นตัวอย่างจากประสบการณ์จริง ว่าถ้าคนไข้ยังรู้สึกตัวอยู่ อาจจะทำให้การผ่าตัดควบคุมได้ยากค่ะ

หลังจากนั้นผ่าตัดเสร็จ พี่พนักงานเปลเวรก็เข็นพากลับห้องพักฟื้น แล้วคุณพี่เค้าก็เข็นชนกับกำแพงตึกเต็ม ๆ เลยค่ะ // เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น เพลงมาทันที .. โชคดีที่เรายังมีฤทธิ์ยาชาอยู่ ทำให้ชนไปเถอะ ยังไงก็ไม่เจ็บ ขอร้องแค่อย่าชนจนตกเตียงก็แล้วกัน (ข้อดีอีกข้อ ก็คือ ยาชายังคงออกฤทธิ์อยู่ 2-3 ชม.เลย)

ภาพโดย BellamiPhotography จาก Pixabay

เสียดายที่คลอดรพ.รัฐไม่มีการถ่ายวิดีโอไว้ค่ะ Mommynuch เลยไม่มีภาพประทับใจตอนคลอดลูกสาวคนโตเก็บไว้ แต่ไม่เป็นไร ถึงเวลาจะผ่านไปเพียงแค่นึกความทรงจำก็ย้อนกลับมา สามารถถ่ายทอดได้เป็นฉาก ๆ เหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อวานเองค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ วันนี้ Mommynuch มาแชร์ประสบการณ์คลอดให้เพื่อน ๆ อ่านกัน หวังว่าเพื่อน ๆ คงมีตัวเลือกในใจว่าจะคลอดแบบไหน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับคุณหมอวินิจฉัยว่าเราควรจะคลอดแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นการคลอดแบบธรรมชาติ หรือผ่าตัดคลอด ถ้าเพื่อน ๆ สนใจ สามารถหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี้ค่ะ จะคลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด ดีนะ? ข้อมูลจากคณะแพทย์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

วันนี้ขอบ๊ายบายกันไปก่อน มาตามอ่านภาคต่อไปกันนะคะ จะมาเล่าถึงการให้นมแม่ค่า กระซิบว่า เพราะรพ.ระยองนี้เองที่ทำให้ Mommynuch ให้นมแม่ได้ยาว ๆ ถึง 5 ปีเลยค่า เกริ่นน้ำจิ้มแล้ว อยากอ่านรายละเอียดตามมานะคะ ^^ // เลิฟยูวววว์